รวมเรื่อง ผี ตำนาน ความเชื่อ เรื่องประหลาด เร้นลับ - นิยาย รวมเรื่อง ผี ตำนาน ความเชื่อ เรื่องประหลาด เร้นลับ : Dek-D.com - Writer
×

    รวมเรื่อง ผี ตำนาน ความเชื่อ เรื่องประหลาด เร้นลับ

    รวบรวมเรื่องผี ตำนาน ความเชื่อของหลายๆประเทศแปลเอง(ถ้าไม่ใช่ภาษาไทย) ปล. ซ้ำขออภัยไม่มีเจตนาลอกเลียน

    ผู้เข้าชมรวม

    11,179

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    60

    ผู้เข้าชมรวม


    11.17K

    ความคิดเห็น


    43

    คนติดตาม


    111
    จำนวนตอน :  55 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  3 ส.ค. 56 / 21:22 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    Special Thanks

     ธีม ธี๊ม ธีม


    เราพยายามรวบรวมเรื่องผีๆ หหรือความเชื่ออะไรก็ตามแต่ ทั้งความเชื่อ ความเป็นมา ตำนาน บางเรื่องอาจไม่เกี่ยวข้องกับพวกผีเลยแต่ก็น่าอ่าน(มั้ง)นะ ^^

    ปล.ตัวโตๆ เรื่องทั้งหมดกรุณาใช้วิจารณญาน ถ้าเชื่อง่ายเกินคุณอาจวิตกจริตได้

    ปล.ตัวโตๆ (2) ไม่มีเจตนาลอกเลียนแบบ แต่...เป็นความช้อบชอบส่วนตัวที่อยากอ่าน เลยคิดว่าน่าแบ่งความวิตกจริตมาให้คนอื่นมั่ง (นิสัย.....)

    ปล.ตัวโตๆ (3) ใครอยากอ่านแนวไหน (ผีๆ ลึกลับ แปลกๆ บลาๆๆ) รีเควสมาได้หรือมาบอกที่ไอดีก็ได้นะ ^^


    สุดท้ายอยากให้เม้นๆ โหวตๆ ชมๆ ด่าๆ ด้วยนะเพราะกว่าจะหาเรื่องสนุกๆได้มันเป็นอะไรที่... - -" แหะๆ


    ปล.ที่4 แบบปกติ อยากให้ช่วยโวหตกันด้วยจะได้รู้ว่าหาแนวไหนมาให้อ่านดีโพล126243





    เอาไปอ่านแบบเบๆ กันก่อนละกัน หึๆๆ

    1.หอนาฬิกา


    อันเนื่องจากเคยเป็นป่าช้าและลานประหารเก่ามาก่อน ทำให้เรื่องเล่า เรื่องผีทั้งเก่าและใหม่มีมากมาย

    เรื่องนี้อยู่ที่หอนาฬิกาใหญ่ ตรงสี่แยกจากประตูหลังมอ ตรงนั้นจะเป็นวงเวียนสี่แยก
    ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้เป็นคณะวิศวะ ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้เป็นคณะศึกษา และโรงเรียนสาธิต
    ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ เป็น หอ 4 ชาย และฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหอ 6 หญิง เรื่องนี้มีอยู่ว่า...

    ตรงหอนาฬิกา กลางวงเวียน มีเปรต หากไปลองของอาจโดนดีได้ วิธีการลองดีคือ ตอนเที่ยงคืน
    ให้ไปวนรถทวนเข็มที่หอนาฬิกา สามรอบ (วงเวียนจะเวียนรถตามเข็ม)
    เล่ากันว่า ผู้ที่ลองทำอย่างนั้น ไม่เคยมีใครวนรถทวนเข็มได้ครบสามรอบสักคน
    ผู้มีประสบการณ์บอกว่า ในขณะที่วนรถอยู่นั้นจะรู้สึกได้ถึงลมที่เย็นผิดปกติ
    แต่วนไปสองรอบก็ไม่เกิดอะไรขึ้น มาเกิดตอนที่จะครบ รอบที่สาม จู่ๆ ก็มีเสาสองต้นตั้งขวางถนนอยู่
    ทำให้ต้องหักรถหลบ รถล้มบ้าง แฉลบบ้างไปตามๆกัน ใครอยากรู้ก็ลองดู

    อีกกรณีหนึ่งมีข่าวอยู่บ่อยๆ ว่านักศึกษาที่พักอยู่ในหอพักชาย 4 และ หญิง 6 ฝั่งที่ติดกับหอนาฬิกา
    มักได้ยินเสียงแหลมๆ เล็กๆ ดังมาจากทางหอนาฬิกา สอบถามแล้วคืนนั้น เด็กสาธิตไม่มีการทำกิจกรรม
    และคณะวิศวะไม่มีกิจกรรมหรือการก่อสร้างใดๆ และที่สำคัญ บางห้องได้ยิน บางห้องไม่ได้ยินทั้งที่อยู่ติดกัน?

    * * *


    2.ห้องน้ำสังคม

    ที่ห้องน้ำคณะสังคมศาสตร์ ที่เก่าๆ หน่อยลองไปหาดูเอาเอง
    ลักษณะห้องน้ำคือ ประตูอยู่ตรงกลาง เข้าไปแล้ว โถฉี่จะอยู่ทางซ้ายมือ
    ส่วนอ่างล้างหน้ากับกระจกส่องหน้าจะอยู่ทางขวา
    รุ่นพี่ที่อยู่คณะสังคมเคยเล่าว่า เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า (ฟังเขามาอีกต่อหนึ่ง)
    ตอนกลางคืนช่วงใกล้สอบไปอ่านหนังสือที่คณะสังคม แล้วปวดฉี่เลยไปฉี่ที่ห้องน้ำนี้ (เริ่มนึกออกหรือยังว่าห้องน้ำที่ไหน)
    ลุกเข้าห้องน้ำคนเดียว คนอื่นๆ ก็นั่งอ่านหน้งสืออยู่ คนไปฉี่ก็เข้า ไปฉี่ธรรมดา
    ห้องน้ำมี โถฉี่สองอัน อันแรกติดประตูอันที่สองอยู่ด้านขวาข้างในไปอีก
    เขาบอกว่าตอนจะฉี่ ก็จะฉี่ที่โถแรกเพราะใกล้กว่า แต่ไม่รู้นึกยังไง เลยเดินเลยไปฉี่ที่โถข้างใน
    ตอนฉี่ก็ยังไม่มีอะไร แต่ตอนฉี่เสร็จแล้วมองออกไปที่กระจก
    ภาพในกระจกสะท้อนเห็นกำลังมีคนยืนฉี่ อยู่ที่โถฉี่อันแรก! (หันหลังให้)
    นึกว่าตาฝาด เพราะหันไปดูก็ไม่มีอะไร แต่พอไปดูในกระจกก็เห็นเหมือนเดิม? คืนนั้นเลยไม่ได้อ่านหนังสือ

    * * *


    3.ห้องสีชมพู


    เรื่องนี้เกิดที่หอหญิง ไม่แน่ใจว่า 7 หรือ 4 หรือ 8
    เป็นเรื่องของนักศึกษาหญิงที่เข้ามาพักในหอในแล้วไปมีอะไรกับผู้ชายแล้วเกิดพลาดตั้งครรภ์ขึ้น
    มารู้ตัวเอาตอนท้องได้ 4 เดือนแล้วแต่มันยังไม่ป่องออกมา จึงปิดเงียบไม่ให้ใครรู้แม้แต่เมท
    ทำยังไงถึงจะเอาออกได้ พลาดไปแล้ว แต่ไม่อยากเสียอนาคต ไม่มีเงินทำแท้ง แฟนไม่รับผิดชอบ
    ตัดสินใจเอาออกเองในห้องพัก โดยเลือกตอนช่วงที่เพื่อนไม่อยู่ ทำเองคนเดียว โดยไม่ทราบวิธีการ
    ปรากฎว่า ผลร้ายกว่าที่คิด นักศึกษาคนนั้น ตกเลือดตายในห้อง
    เพื่อนมาพบศพตอนเย็น เห็นรอยเลือดกระจัดกระจาย ติดฝาผนังบ้างก็มี

    หลังจากจัดการเรื่องศพเรียบร้อยแล้ว (รวมถึงทำ ความสะอาดห้อง) โดยที่เมทของคนตายก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น
    แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด เห็นรอยเลือดสีจางๆติดอยู่ที่ผนังสีขาว ก็เลยให้คนเอาสีขาวมาทาทับ

    วันรุ่งขึ้นเปิดเข้าไปทำความสะอาด รอยเลือดยังมีอยู่เหมือนเดิม
    ไม่ว่าจะทำยังไง ทั้งขัด ทั้งถู หรือทาสีใหม่ รอยเลือดนี้ก็ยังไม่หายไป
    จนสุดท้ายทางหอพัก จึงต้องนำสีชมพูไปทาทั้งห้องเพื่อไม่ให้เห็นรอยเลือด
    กลายเป็นห้องสีชมพูตั้งแต่นั้นมาปัจจุบัน เป็นห้องเก็บของที่ปิดตาย
    เคยมีแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดที่ห้องนี้ แล้วออกจากห้องไม่ได้ เพราะลูกบิดถูกล๊อค (ทั้งที่ตัวล๊อคอยู่ในห้อง)
    ลองไปเยี่ยมชมดูได้ครับ หนึ่งความพลาดพลั้งที่ไม่มีอะไรแก้ไขได้

    * * *


    4.ห้องน้ำหลอน

    รุ่นน้องอยู่หอ 7 หญิงเหมือนกันเล่าว่า ไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำรวมตอนกลางคืน ชั้น 3
    เข้าไปอาบน้ำ ที่ช่องที่เขากั้นให้อาบน้ำช่องในสุด สักพักได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาอาบน้ำในห้องข้างๆ
    ได้ยินเสียงฝักบัว แถมยังมีน้ำกระเซ็นเข้ามาที่ห้องตัวเองอาบอยู่อีกต่างหาก
    แต่รุ่นน้องอาบน้ำช้า ห้องข้างเลยกลับออกไปก่อน พอรุ่นน้องอาบน้ำเสร็จ เปิดห้องออกมา
    ก่อนออกก็ต้องเดินผ่านห้อง ข้างๆ อยู่แล้ว เพราะตัวเองอาบห้องในสุด
    ไม่มีร่องรอยการอาบน้ำเลย ตรงฝาผนังและพื้นแห้งสนิท!

    ที่ห้องอาบน้ำชั้น 2 รุ่นพี่ แก่กว่าประมาณ 3 ปีเคยเล่าให้ฟัง กำลังจะเข้าไปอาบน้ำ ทั้งห้องมีอยู่คนเดียว
    กำลังจะสระผม รู้สึกว่ามีน้ำกระเด็นมาจากห้องข้างๆ แต่ไม่มีเสียงน้ำ
    ด้วยความสงสัย จึงหยุดแล้วไปดูห้องข้าง ๆ ก็ไม่เห็นมีน้ำรั่วหรือซึมทั้งฝา และเพดาน เรียบร้อยทุกอย่าง
    พอเข้าห้องมาจะอาบก็เจอน้ำกระเซ็นอีก... คราวนี้ไม่อยู่แล้ว เก็บของออกจากห้องน้ำไปเลยฟังหูไว้หู

    * * *


    5.ป๊อก ป๊อก ครืด

    ระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไม่ทราบแน่ชัด แต่สถานที่เกิดคือ หอ 7 หญิง
    ในสมัยที่มอ ยังเป็นที่รกร้างอยู่มาก ถนนยังเป็นลูกรัง ถนนหน้าฝนเป็นโคลน รถไปมาลำบาก
    ตอนกลางคืนมืด ไม่มีแสงไฟ เรื่องเกิดกับนักศึกษาสาว คู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น 2 หรือ 3 ของหอหญิงเจ็ด

    ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ นักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกันอยู่ ประมาณว่า นักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้อง
    ตอนหัวค่ำแล้วรูมเมทชวน ไปทานข้าว แต่เพราะเป็นไข้อยู่จึงไปไม่ไหว อยากพักผ่อน
    พอเมทคนนั้นเห็นเพื่อนไม่สบาย ด้วยความเป็นห่วง จึงบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวเองก็ได้ แล้วจะห่อข้าวมาฝากเพื่อน
    คนที่ไม่สบายก็บอกว่า ยังไงฝากซื้อราดหน้า (หรือผัดไท หรือสักอย่างที่เป็นเส้นๆ) มาให้ทีละกัน
    กินแล้วจะได้กินยา
    เมทคนนั้นก็บอกว่า ได้เดี๋ยวจะรีบไป รีบกลับ

    หลังจากที่เพื่อนออกไปจากห้องคนที่ไม่สบายก็นั่งอ่านหนังสือต่ออ่านได้สักพักก็ไม่ไหว เพราะไข้ขึ้น
    จึงนอน
    ตอนนอนอยู่นั้น สลึมสลืออยู่ แต่มีความรู้สึกว่านานมากแล้ว เพื่อนทำไมยังไม่กลับมาซะที่
    ตกดึก ฝนเริ่มตก นักศึกษาคนนั้นก็ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือต่อ ในใจเป็นห่วงเพื่อนเพราะออกไปนานมากยังไม่กลับ

    สักพักนักศึกษาคนนั้นได้ยินเสียงเบาๆ ดังจากชั้นล่าง จากทางบันได "ป๊อก…ป๊อก……ป๊อก……… ป๊อก…..."
    เสียงนั้นดังเป็นระยะๆ ใกล้เข้ามา จากทางบันไดดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงเหมือน คนกำลังแบกของหนักบางอย่างขึ้นมา
    และเสียงนั้นก็ดังมาจนถึงชั้นที่ห้องนักศึกษาหญิงคนนั้นอยู่ แล้วเสียงก็เปลี่ยนไป "ครื…..ด….ครื....ด…...ค..รื…ด"
    เสียงเหมือนคนกำลังลากอะไรสักอย่างใกล้เข้ามาเรื่อย จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง
    นักศึกษาหญิงเริ่มเอะใจ และมองไปทางประตู ในใจนึกว่าเพื่อนกลับมาแล้ว แต่ยังเงียบได้อึดใจนึง
    ก็มีเสียงเคาะห้อง "ก๊อก ก๊อก ก๊อก" แล้วเงียบไป นักศึกษาสะดุ้งสุดตัว คิดว่าไม่ใช่ เพื่อนแน่แล้ว
    ถ้างั้นทำไมไม่เปิดเข้ามาเลย จึงเดินไปเปิดประตู ตรงลูกบิดประตูมีถุงใส่ห่อราดหน้าแขวนอยู่
    พอเห็นห่อราดหน้า ก็งง แล้วเพื่อนอยู่ไหน ทำไมไม่กลับมา หรือ ติดฝนเลยฝากคนอื่นเอามาให้
    แต่ทำไมต้องเอามาแขวน ไม่รอเจอกันก่อน จะได้รู้ว่าเป็นใคร แล้วทำไมเดินเร็วจัง
    มีแต่รอยเปียกน้ำเป็นทางจากบันได...คิดต่างๆ นานา แต่แล้วก็แกะ ห่อราดหน้าออก
    ทานเสร็จก็ทานยาตาม ได้สักพักก็ม่อยหลับไป

    รุ่งเช้า มีคนมาเคาะห้องบอกว่าเพื่อนตายแล้ว นักศึกษาหญิงคนนั้นถูกฆ่าข่มขืน ตรงพงหญ้าข้างทาง
    คาดว่าเหตุเกิดประมาณหัวค่ำ ลักษณะศพสภาพแขนและขาทั้งสองข้างหัก
    อาจเกิดจากการที่คนร้ายเอาท่อนไม้ทุบตีเพื่อไม่ให้หนี
    นักศึกษาหญิงที่ตายกำลังเดินทางกลับจากตลาด (ไม่แน่ใจว่าเป็นฝายหินหรือตลาดต้นพยอม)
    หลังจากทานข้าวเสร็จ ทุกทีจะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนไม่สบายจึงไปคนเดียว โดยเพื่อนฝากซื้อข้าวห่อ
    คนร้ายอาจเห็นว่าเป็นคนเดียวจึงลงมือ แล้วราดหน้าเมื่อคืนล่ะ? ไม่มีใครรู้คำตอบแน่ชัด

    แต่จากที่ฟังกันมา คือหลังจากที่ตายไปแล้ว ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน เพราะว่าไม่สบาย และยังหิว
    นำห่อราดหน้าที่ซื้อมาฝากไปส่งให้แต่จะไปส่งยังไง แขนหักขาหักหมดแล้ว
    ลักษณะที่เขาเล่ามา คือเพื่อนคนนั้นใช้ปากคาบถุง แล้วใช้คางเกยพาตัวเองมาจนถึงหอพัก
    แล้วใช้คางเกยบันไดลากตัวเองขึ้นมา เป็นเสียง"ป๊อก ป๊อก"
    เสียง "ครืด"ที่ได้ยินคือเสียงลากตัวเองจากบันได มาจนถึงหน้าห้องปรากฎเป็นรอยเปียกน้ำยาวติดต่อกัน
    หลังจากส่งห่อลาดหน้าให้ได้แล้วก็หมดห่วง...ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษาคนนั้น
    เล่าแต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้างๆ ห้องยืนยันว่า ในคืนนั้นได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังยกของหนัก
    และลากของหนักจากข้างล่างขึ้นมา ทุกคนต่างเชื่อสนิทใจ......มิตรภาพอยู่เหนือความตาย...

    * * *

     

     

    วันหนึ่ง นักศึกษาจากคณะวิศวะสองคนเพิ่งเลิกจากกังสดาล (แต่ก่อนร้านนี้ฮิตครับ)
    ครึ้ม ๆ ขึ้นมาก็เลยขับรถเลยจากทางเข้า กะขึ้นดอยไปชมเมืองเล่น คนขับก็ขับไป
    ข้างหลังคนซ้อนก็นั่งไป เมาๆ ขึ้นมาคนซ้อนก็เลยหลับ
    (สมัยก่อนแปดสิบเปอร์เซ็นต์นักศึกษาขับแมงกะไซค์ไม่ใช่รถยนต์อย่างทุก วันนี้)

    สักพักหนึ่งคนซ้อนก็ตื่น กำลังเข้าโค้งพอดี เห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนโบกรถอยู่ข้างทาง แต่คนขับก็ขับเลยผ่านไป
    ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษจัด ก็เลยถามคนขับว่า “ทำไม mung ไม่จอดรถลงไปถามหน่อยล่ะ เผื่อเขามีปัญหาอะไร?”
    คนขับบอกว่า “ku ไม่จอดด้วยหรอก คนนี้เขารอโบกทุกโค้งเลย เจอมาหลายโค้งแล้ว
    เดี๋ยวโค้งหน้า mung กะ ku ก็เจอเขาอีกแหละ...”

    * * *


    7. พยาบาลชุดแดง

    เห็นเขาเล่าว่ามีนักศึกษาคนนึงของคณะแพทย์อยู่ทำงานในตึกของฝั่งสวนดอก
    (ไม่แน่ใจว่าเป็น โรงพยาบาลหรือตึกแพทย์คนเล่าไม่ยืนยันแต่ 2 ตึกนี้ก็ใกล้กันนี่ กลับเข้าเรื่องต่อ)

    เขาคนนี้ก็ทำงานอยู่จนดึกก็เลยว่าจะลงลิฟต์มาระหว่างที่รอ เขาก็ได้ยินเสียงเดินมาข้าง ๆ
    เขาก็หันไปมองเห็นพยาบาลคนนึงเดินมา เขาก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะพยาบาลกับแพทย์ ก็ต้องเจอกันบ่อยๆอยู่แล้ว
    ระหว่างรอลิฟต์นักศึกษาคนนี้ก็ได้กลิ่นอะไรแปลกๆ ก็เลยหันไปมองพยาบาลคนนี้ ก็ไม่เห็นมีอะไร
    ซ้ำพยาบาลคนนี้ยังยิ้มให้ด้วย สักพักต่อมาเมื่อเข้าไปในลิฟต์ พยาบาลคนนี้ก็ถามว่ามาทำอะไรดึกๆอย่างนี้
    เขาเลยตอบว่ามาศึกษาเรื่องการผ่าตัดภายใน เพราะว่าจะสอบ พยาบาลคนนี้เลยบอกว่างั้นให้ฉันช่วยนะ
    นักศึกษาคนนี้ก็เลยงง และเริ่มสังเกตว่าคอของผู้หญิงเริ่มมีเลือดไหลออกมาจากคอเรื่อยๆ
    เขาตกใจมาก พยายามที่จะหนีออกมาจากลิฟต์ แต่ลิฟต์เหมือนค้างหรืออะไรไม่ทราบ
    เลือดไหลนองทั่วชุดของนางพยาบาลคนนี้ แล้วเธอก็เริ่มสอนนักศึกษาแพทย์คนนี้
    ตั้งแต่ลำไส้ ปอด สมอง หัวใจ พร้อมทั้งควักส่วนต่างๆเหล่านี้ออกมา

    รุ่งขึ้นก็มีคนพบชายคนนี้ นอนคาอยู่ทางประตูลิฟต์ที่เปิดปิดอยู่ แล้วเขาก็เอาแต่พร่ำเพ้ออย่างคนบ้าว่า
    ”พยาบาล ชุดแดง พยาบาลชุดแดง”

    * * *


    8.ลวด

    วงเวียนธรณีจุดนี้มีเรื่องเยอะจริงๆ เรื่องนี้นานมาแล้วมีนักศึกษาสองคนกินเหล้าเมากันมา
    พอมาถึงข้างตึกธรณี คนขี่มองไปทาง ข้างตึกอังกฤษ เห็นคนหัวขาดยืนอยู่ ตกใจจึงหยุดรถ
    ขยี้ตาดูอีกที แล้วสะกิดถามเพื่อน เพื่อนบอกไม่เห็นอะไร มองอีกทีก็ไม่มีแล้ว
    หันกลับมาข้างหน้ามีลวดเส็นเล็ก ๆ ขึงอยู่ระดับคอ ห่างออกไปเมตรเดียว ถ้าไม่หยุดรถ คง!...

    พระเจ้าช่วย คนดีผีคุ้ม...

    * * *


    9. RB แพทย์

    อาคารเรียนรวมแพทย์ มีคนไปอ่านหนังสือกันสองคน พอดึก ๆ ก็ไปซื้อไก่ทอดมากิน เสร็จแล้วก็หาที่ล้างมือ
    เจอก๊อกน้ำข้างตึกก็ไปล้างมือที่นั่น ตอนที่ล้างอยู่ เพื่อนอีกคนก็ทำหน้าตกใจมากแต่ยังไม่พูดอะไร

    คนที่ทำหน้าตกใจรีบจูงมือเพื่อนกลับมาใต้ตึกแล้วถามว่า รู้มั้ยเมื่อกี้เห็นอะไร...อีกคนบอกไม่รู้
    คนนั้นจึงบอกว่าเห็นผมของอีกคนซึ่งผมยาวชี้ขึ้นมากระจุกหนึ่งเหมือนมีคนจับขึ้นมา
    รู้ทีหลังว่า ตรงนั้นเป็น ที่ล้างศพ!..

    * * *


    10.partner lab แลปฟิสิกส์

    อันนี้ฟังเค้าเล่ามาอีกทีเป็นเรื่องนานมาแล้ว เราเองก็มาไม่ทัน
    เรื่องมีว่าเมื่อก่อนตอนที่ตึกเก้าชั้นวิดยายังไม่ได้สร้างแลปฟิสิกส์ของเด็กปี1
    ก็ยังทำที่แลปเก่า (น่าจะ เป็นตึกฟิสิกส์) แลปคราวนั้นเป็นแลปเรื่องแสง
    คนที่เคยเรียนคงรู้ว่าห้องจะมืดเพราะปิดไฟ และเป็นแลปมืดจริงๆ เพราะทำช่วงค่ำ

    นักศึกษาหญิงคนนึงก็เข้าห้องแลปแต่พาร์ทเนอร์แลปยังไม่มา คนอื่นๆก็มากันแล้ว
    เตรียมอุปกรณ์เสร็จ เพื่อนก็มาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จา ถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ตอบ
    เหลือบเห็นที่คอมีรอยแผลเป็นทางยาว เธฮจับไหล่เพื่อนถามว่าไปโดนอะไรมา
    เพื่อนเงยหน้าขึ้นมาแล้วหัวหลุดกลิ้งไปกับพื้น ผู้หญิงร้องกรี้ดแล้ววิ่งออกมาสลบตรงระเบียง

    ฟื้นมามียามกับรุ่นพี่สองสามคน ถามว่าไม่รู้เหรอว่าวันนี้แลปงด เพราะเมื่อเช้ามีนักศึกษาในเซครถคว่ำตาย
    เพื่อนเลยไปงานศพช่วงค่ำกันหมด สอบถามชื่อได้ความว่าคือพาร์ทเนอร์แลปของเธอนั่นเอง!

    ส่วนคนที่เจอในห้องแลปทุกคนล้วนแต่ไร้ชีวิต

    * * *
    11.ทางเดินคณะวิดวะ

    มีคนสี่คนเข้าไปเล่นผีถ้วยแก้วตรงทางเดินยาวตรงข้ามหอ5ชาย วันนั้นฝนตกด้วย มีผีผู้ชายเข้ามา
    พอถามว่าชื่ออะไรไม่ตอบถามว่ามาคนเดียวใช่รึไม่ใช่ก็ตอบว่า ไม่ใช่ จึงถามต่อว่ามากันเท่าไหร เค้าก็ไปเลข 9

    คนเล่นรู้สึกกลัวขึ้นมา จึงเชิญออกแล้วรีบกลับมาที่หอ มีเพื่อนถามว่าไปไหนกันมา ก็บอกว่าไปเล่นผีถ้วยแก้วในคณะวิดวะ
    เพื่อนก็ว่า "อ๋อ.... ที่ยืนมุงเยอะ ๆ ตรงทางเดินน่ะนะ ! "

    * * * * * * * * * * * *

    เพราะมันเป็นรถตู้มือ2

    ที่บริษัทผมประมูลรถมาใช้งานอยู่บ่อยๆครั้งนี้ก็ได้รถตู้มาคันนึง สีขาว สภาพดีมากๆ คนขับรถบริษัทกับผมสนิทกันดีครับ พี่แกยังว่าคราวนี้ได้รถสภาพดีเชียวเอามาแทนคันเก่าที่ใช้มาหลายปี ว่าแล้วผมก็ลองนั่งเลย เอ..สภาพภายในดีนะพี่แต่ทำไมมันต้องกั้นห้องโดยสารกับห้องคนขับด้วยล่ะ ผมว่ามันเหมือนพวกรถพยาบาลเลยนะพี่..ผมพูดให้พี่แกฟัง แกยังคิดเหมือนผมเลยแต่..จะเป็นอะไรไปละรถพยาบาลสิดี เพราะว่าไม่ค่อยได้ใช้งานหนัก รถถึงได้สวยอย่างนี้ไง..เออ..จริงของแก..
    พี่เค้าเป็นคนรักรถมาก แกขยันล้างรถเกือบทุกวันแกว่าเป็นคนขับรถ จะปล่อยให้รถสกปรกไม่ได้..มันเหมือนเครื่องมือหากินของเรา พี่แกจะตื่นมาล้างรถแต่เช้ามืดประมาณ ตี 4 กว่าๆ หรือบางทีก็ตี 4 เพราะตี 5 แกต้องออกไปรับนายในเมืองทุกวัน
    วันนั้นแกก็ออกมาล้างรถตามปกติ แต่พอเดินไปถึงที่จอดรถแกก็เห็นคนเดินสูบบุหรี่ เดินวนๆอยู่รอบๆรถตู้ของแก พอเข้าไปใกล้เจ้าคนนี้ก็เดินหายไปทางหลังรถ พี่แกก็นึกว่ายาม มาปิดไฟโรงรถ (นโยบายประหยัดไฟ ครับ ให้ปิดไฟตอนเช้ามืดทุกวัน) แกก็เรียกหาอยู่ก็ไม่มีใครตอบ ก็เลยขับรถออกไปล้างที่สนามฟูตบอล ที่นี้พอล้างเสร็จเดินเอาผ้าเช็ดรถไปผึ่งกับ ประตูฟุตบอล ระหว่างที่หันกลับมาที่รถ ก็เห็นคนยืนพิงรถสูบบุหรี่อยู่ แต่มันก็มืดพอควร เห็นไฟบุหรี่แดงวาบๆอยู่ แกเล่าว่าแกตะโกนเรียกเจ้าคนที่สูบบุหรี แต่มันก็ไม่ตอบเหมือนเดิม แกเดินมาจะถึงรถอยู่แล้วเจ้าคนที่สูบบุหรี่ก็เดินหลบไปหลังรถอีก..คงรูใช่ไหมว่า แกหายังไงก็ไม่เจอ.. แต่เชื่อเลยครับว่า..ขนาดนี้แกยังไม่คิดว่าเป็นผีเลยนะแกว่าคงเป็นพวกยามนี่แหละมาแกล้งแก ..เฮ้อ
    ตอนบ่ายนายให้แกเอารถไปเช็คที่ศูนย์บริการ แกก็เอารถไปทิ้งไว้เลยกะว่าพรุ่งนี้ค่อยไปเอาเพราะว่าศูนย์นี้ ให้เครดิตกับบริษัทเราตลอดมา..
    เช้ารุ่งขึ้นศุนย์บริการโทรเรียกให้ไปรับรถได้..พี่แกก็ไปรับรถจะกลับมาที่บริษัท พอดีเจอกับผู้จัดการศูนย์เข้าพอดีก็เลยคุยกัน ผู้จัดการศูนย์บอกว่า..ยามที่เข้ากะเมื่อคืนเจอดีเข้าให้..ยามเล่าว่าประมาณตี1ตี2เห็นจะได้แกก็ออกเดินตรวจตามปกติ..แต่พอมาถึงรถตู้คันนี้ก็เห็นเหมือนคนยืนสูบบุหรี่อยู่ ตะคุ่มๆ 2 คนแกนึกว่าเป็นขโมยแน่ก็เลยฉายไฟไปที่จุดที่คนสูบบุหรีอยู่ พอยกไฟฉายส่องก็ไม่มีอะไรแต่พอเลื่อนไฟฉายไปตรงอื่นก็เห็นเหมือนเดิมครับเป็นคน 2 คนยืนสูบบุหรี่อยู่ ยามว่า..ไม่ใช่คนหรอก..แก็เลยวิ่งกลับมาที่ป้อมยามแต่คราวนี้ได้ยินเสียงหัวเราะคิกๆคักๆด้วย..สติแตกเลยทีนี้ ต้องขอกำลังยามจุดอื่นมาอยู่เป็นเพื่อนจนถึงเช้าแน่ะ..พอพี่แกได้ฟังเรื่องนี้แกบอกว่าขนลุกเลยเพราะว่าเหตุการณ์มันเหมือนกันมากเลย เป็นอันว่าแกก็โดนเหมือนกัน ก่อนจะเอารถกลับบริษัทก็เลยแวะหาหลวงพ่อที่วัด ให้ช่วยปัดรังควาญให้ จากนั้นก็ไม่เคยเจอกันอีกเลยครับ ..เรามาคุยกันที่หลังคิดว่ารถคันี้คงเป็นรถของโรงพยาบาลที่ไหนสักที่แน่ๆ มันก็เลยต้องเคยบรรทุกทั้งคนเจ็บ และคนตายมานั่นแหละ ก็เลยมีประเภทว่าไปไหนไม่ถูกเลยช่วยเฝ้ารถให้น่ะ แต่ตอนี้ไม่เป็นไรแล้วหลวงพ่อท่านชี้ทางสว่างให้แล้วนะ ไปไหนก็ไปเถอะ เพราะผมก็นั่งรถคันนี้อยู่บ่อยๆ ไม่อยากเจอนะครับ






















    fibii . fibii .

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น